ยินดีต้อนรับผู้เข้าชมบล๊อค เฮา "ฮัก" อิสานทุกคน บล๊อคนี้ผู้เข้าชมสามารถมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นต่างๆ ในแบบที่เป็นตัวของตัวคุณเอง และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเชิญชวนให้เกิดความรักบ้านเกิดด้วยกันนะคะ

วันเสาร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2556

อาหารเลิศรสของเรา


ลมเหมันต์มาพานต้องฮวงข้าวกล่องกะโอนเอน
มาคิดเห็นใจคนที่ห่างไกลไปหลายมื้อ
ย้านเป็นคือดั่งฮวงข้าวหลงลมสาวแล้วไป่น้อ
เอาคารมมาหลอกล่อ สิเอนเอื้อนอ่วยตาม เด้เนาะ
คิดเห็นบ่น้อใจน้องหล่าคำแพงคนใจซื่อ
ยังยึดถือความฮักอ้าย บ่หมายม้างออกห่างใจ
หลายร้อยโลที่ห่างหน้า บ่เคยว่าสิห่างเหิน
บ่เคยเพลินไปนำไผ เพราะหัวใจมีเพียงอ้าย

วันอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2556

แม่โพสพ คือใคร?



ความเชื่อที่แตกต่างๆกันของแต่ละภาค เกี่ยวกับพระแม่โพสพที่คนไทยในแต่ละภาคถือว่า พระแม่โพสพ เป็น "เทพี" ที่คอยดูแลต้นข้าวของชาวนาคอยดูแลพืชผลผลิตให้อุดมสมบูรณ์ เวลาเกี่ยวข้าวเสร็จก็จะ ทำพิธี "ขอขมา" พระแม่โพสพด้วย

วันอังคารที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2556


คลิปวิดีโอที่ให้แง่คิดและจะทำให้ทุกคนซึ้ง คลิปดีๆที่ควรดู

(สำนึกรักบ้านเกิด)

วันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2556

 

สาวอีสาน
อย่าสุไลลืมถิ่ม พงศ์พันธุ์พี่น้องเก่า
อย่าสุละเซื้อเหง้า หาย้องผู้อื่นดี
เพิ่นว่าไทไกลนี้ เจงเลงน้ำแจ่วข่า
บ่ท่อใสจิ่งหลิ่ง ไทใกล้น้ำแจ่วขิง

วันเสาร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ฟ้อนแหย่ไข่มดแดง


     ในอดีตนั้น การประกอบอาหารและการเสาะหาแหล่งอาหารของชาวไทอีสานในความเป็นอยู่แบบพอ เพียงไม่ได้ซื้อหาจากตลาดหรือร้านค้าดั่งเช่นในปัจจุบัน ชาวอีสานในอดีตจึงออกแสวงหาอาหารในแหล่งธรรมชาติใกล้ชุมชน เช่น ในท้องนา ป่าชุมชน ป่าทาม รวมไปถึงในแหล่งน้ำตามธรรมชาติ แม้ว่าปัจจุบันวิถีชีวิตบางอย่างจะเปลี่ยนแปลงไปบ้างก็ตาม ด้วยกระแสบริโภคนิยม บางท้องที่หรือบางชุมชนก็ยังหาอยู่หากินอย่างพอเพียงตามวิถีชีวิตแบบดั้ง เดิมกันอยู่
“ไข่มดแดง” รวมถึงตัวอ่อนของมดแดง ก็ถือได้ว่าเป็นอาหารอีสานที่หารับประทานได้ในช่วงหน้าแล้งเท่านั้น ถือได้ว่าเป็นอาหารตามฤดูกาลแม้ในปัจจุบันก็ยังได้รับความนิยมในการบริโภค กันอยู่ ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ และสามารถหาได้ง่ายๆในท้องถิ่น ซึ่งกรรมวิธีการหาไข่มดแดงจะต้องมีอุปกรณ์ คือ ไม้ไผ่ยาวผูกปลายด้วยตะกร้า และมีคุใส่น้ำเตรียมไว้ใส่ไข่มดแดงที่แหย่ได้ แล้วใช้เศษผ้ากวนเอาตัวมดแดงแยกออกจากไข่ เพื่อนำไปประกอบอาหารต่อไป
ภาควิชานาฏศิลป์ วิทยาลัยครูบุรีรัมย์ (มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์) ได้ศึกษารูปแบบการแหย่ไข่มดแดงของชาวบ้าน โดย อ.ประชัน คะเนวัน และ อ. ดรรชนี อุบลเลิศ ได้ศึกษาขั้นตอนอย่างละเอียด ก่อนจะนำมาประดิษฐ์เป็นชุดการแสดง “เซิ้งแหย่ไข่มดแดง” ซึ่งมีความสนุกสนานเร้าใจในแบบศิลปการแสดงแบบชาวอีสาน ซึ่งได้แสดงออกถึงการออกไปหาไข่มดแดง ซึ่งได้มาอย่างยากลำบาก ทั้งต้องถูกมดแดงกัดหรือไต่ตามเสื้อผ้า การกวนแยกตัวมดแดงออกจากไข่ ทำให้ชุดการแสดงนี้บอกเล่าวิธีการได้อย่างละเอียด
การแสดงฟ้อนแหย่ไข่มดแดง
- เดินทางออกจากบ้าน ฝ่ายหญิงจะถือคุใส่น้ำและเศษผ้าเหน็บไว้ที่เอว ชายถือไม้ยาวผูกตะกร้าที่ปลายไม้สำหรับแหย่รังมดแดง
- มองหารังมดแดง
- แหย่มดแดงได้เทลงในครุใส่น้ำ
- นำผ้ากวนมดแดง เพื่อแยกตัวมดออกจากไข่มดแดง
- เทน้ำออกจากครุ
- เก็บอุปกรณ์เดินทางกลับบ้าน

เครื่องแต่งกาย ฝ่ายชายนุ่งกางเกงขาก๊วย เสื้อคอกลมแขนสั้น มีผ้าขาวม้าคาดเอว และใช้ผ้าขาวม้าโพกศีรษะ ฝ่ายหญิงสวมเสื้อแขนกระบอก 3 ส่วนคอกลม ห่มสไบ นุ่งผ้าซิ่นมัดหมี่สั้นแค่เข่า

ดนตรี ลายสุดสะแนน ลายเซิ้งบั้งไฟ
อุปกรณ์สำหรับการแสดง คุใส่น้ำ ตะกร้าผูกปลายไม้ยาว ผ้าสำหรับกวนมดแดง

...................................................................................................................................................




อิสานลำเพลิน โรงเรียนอนุบาลวัดปรินายก


 คลิปวิดีโอที่ดูแล้วรู้สึกภูมิใจ ที่ยังมีเยาวชนไทยทำสิ่งดีๆ เผยแพร่ให้กับสังคมให้ดู
ด.ญ.พธูรัฐ อยู่พร้อม อายุ 12 ปี รำแสดงในงาน "ราตรีฟ้าขาว พราววิไล" โรงเรียนอนุบาลวัดปรินายก วันที่ 10 มีนาคม 2555.
ขอขอบคุณคลิปดีๆจาก www.youtube.com

อยากให้เพื่อนๆดู "คลิป" ที่ชวน "หัวเราะ" ในแบบภาษาอิสาน


รถเป็นหยังล่ะแป้งร่ำ

วันศุกร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2556



คึดฮอดเด้ แนวเคยกินอยู่บ้าน ป่นกะปูบักขามอ่อน
กินแกงบอน ซุบหน่อไม้ ป่นดักแด้ใส่ลาบเทา
ยอดกะเดาหมกใบกล้วย หอมฮวยๆ กินกับป่น
ผักกะโดนโพนนาน้อย เก็บมาจ้ำจิ้มแจ่วบอง
จากบ้านนามาโดนมื้อ คึดฮอด ดอกควมเก่า
จากผู้แก่ผู้เฒ่า ความเพิ้นเว้า บ่ได้ยิน
จากกลิ่นดิน กลิ่นหญ้า ปูปลาอยู่ท่งไฮ่
จากพ่อแม่ปานขาดใจ หนีมาไกลจากบ้าน
หัวใจนั้นกะห่วงหา จากไฮ่นา เคยครองสร้าง ...
กะได้ห่างมาไกล จักปานไดสิได้คืน ต่าวดอกเมือบ้าน

วันพฤหัสบดีที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2556


อ้ายเป็นโบม นางขอเป็นไม้ข่อนด้าม
  พอได้ปี้น ดอกเข่าส่าย คันอ้ายเป็นป่านสาย
  นางขอเป็นว่าวน้อย ให้อ้ายคล้องบัดต้องลม
      คันอ้ายเป็นตม นางสิขอเป็นควายดอกแม่น้อยนอนแส่ 
คันว่าแม่นอ้ายเป็นแหนางสิขอเป็นข่องน้อย ให้บักอ้ายดอกใส่ปลา



ถึงผู้ไปไกลบ้าน สถานถิ่นเมืองหลัง                 
ถึงผู้ไกลจากฝั่ง นทีทองบ่อนเคยอยู่
 ถึงผู้ไลลาล้าง พงศ์พันธุ์พี่น้องเก่า                     
ถึงผู้ไปเนายั้ง ต่างเมืองเมืองเค้าถิ่นดินแม่